บาเนีย เผย 71% คนยุค 4.0 ค้นหาบ้าน-คอนโดฯ ผ่านมือถือ พร้อมเผย 3 ทำเลฮอตบ้านแนบราบ บางใหญ่ ทุ่งครุ หนองแขม ดีมานด์ทะลัก ส่วนคอนโดฯ ริมแม่น้ำ ติวานนท์ ดินแดง แรงสุด
โดย…กัญสุชญา สุวรรณคร
ในยุคโทรศัพท์มือถือกลายเป็นเครื่องมือหลักใช้ในการค้นหาข้อมูล (โมบายเฟิร์ส) ทำให้การค้นหาบ้านบนโลกออนไลน์ เติบโตมากขึ้น
อัญชนา วัลลิภากร ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทสตาร์ตอัพพัฒนาบิ๊กดาต้าแพลตฟอร์มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบ Comprehensive Marketplace และ Data Platform กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการค้นหาที่อยู่อาศัยผ่านเว็บไซต์ baania ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2561 พบว่า 71% ค้นหาผ่านโทรศัพท์มือถือ อีก 24% ค้นหาผ่านคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และอีก 5% ค้าหาผ่านทางแท็บเล็ต ขณะที่แบรนด์โทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการค้นหามากที่สุดคือ แอปเปิ้ล 40% ซัมซุง 31% และ ออปโป้ 13% ยังพบว่าการค้นหาด้วยหัวเว่ยมีเพิ่มมากขึ้น
สำหรับประเภทที่อยู่อาศัยที่มีการค้นหามากที่สุด ได้แก่ บ้านเดี่ยว 45.7% ส่วนคอนโดมิเนียม และทาวน์โฮม มีการค้นหาในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันคือ 25.42% และ 25.16% ตามลำดับ ด้านราคาที่อยู่อาศัยที่มีการค้นหามากที่สุด คือ ระดับราคา 1-2 ล้านบาท คิดเป็น 28.3% ขณะที่ระดับราคา 2-3 ล้านบาท และ 3-5 ล้านบาท มีการค้นหาในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน คือ 23.3% และ 22.6% ตามลำดับ
3ทำเลฮอตแนวราบ-คอนโด
ในส่วนของทำเลที่มีผู้ค้นหาที่อยู่อาศัยมากที่สุด 3 อันดับแรกในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ในประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ ได้แก่ 1.บางใหญ่ 5% 2. ทุ่งครุ 3% และ 3. หนองแขม 2% ส่วนทำเลที่มีการค้นหาโครงการแนวสูง หรือคอนโดมีเนียมมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1. แม่น้ำเจ้าพระยาช่วงเจริญกรุง-สำเหร่ 11% 2. เรวดี-ติวานนท์ 6% และ 3. ดินแดง-ห้วยขวาง 2%
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ทำเลยอดนิยมในการค้นหาที่อยู่อาศัย 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.ย่านสันพระเนตร-สันทราย 22% 2.ย่านช้างเผือก 8% 3.ย่านหางดง 7% ส่วนจังหวัดนครราชสีมา 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.ย่านสุรนารี 26% 2.ย่านจอหอ 16% 3.ย่านหัวทะเล 3% จังหวัดชลบุรี 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.ย่านบ้านปึก 31% 2.ย่านศรีราชา-แหลมฉบัง 10% 3.ย่านพัทยา 7% และจังหวัดภูเก็ต 2 อันดับแรก ได้แก่ ย่านเกาะแก้ว และย่านเจ้าฟ้า
ยอดผู้เข้าใช้บริการ 9 ล้านคน 17 ล้านเพจวิว
นอกจากนี้ บริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยี Big Data เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้เป็นแหล่งข้อมูลที่สมบรูณ์สำหรับการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้แบบรายบุคคล (Personalization) โดยในปี 2561 คาดว่าจะมียอดผู้เข้าใช้บริการรวม 9 ล้านคน 17 ล้านเพจวิว ซึ่งจะทำให้บริษัทมีข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคกว่า 3,500 ล้าน Consumer Data Point ในการนำมาวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภคให้กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ สถาบันการเงิน และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการลงทุน
ทั้งนี้ จากการพัฒนาฐานข้อมูลของบริษัทจะทำให้ผู้ใช้บริการใช้เวลาค้นหาบ้านได้เร็วขึ้นเพียง 6-8 เดือน จากเดิมเฉลี่ย 9-12 เดือน ซึ่งระยะเวลาการค้นหาที่สั้นลงและการตัดสินใจซื้อที่เร็วขึ้นจะทำให้มูลค่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในแต่ละปีเพิ่มสูงขึ้นด้วย
ขณะที่เดียวกัน บริษัทยังได้ขยายพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายในสิ้นปี 2561 ข้อมูลโครงการจะครอบคลุมทั้งหมด 26 จังหวัด ซึ่งจะทำให้บริษัทมีข้อมูลโครงการทั้งสิ้น 14,738 โครงการ มีแบบบ้าน 32,421 แบบบ้าน จากจำนวน 2,593,680 ยูนิต รวมทั้งข้อมูลโครงการบ้านมือสองที่ได้รับความร่วมมือจากโบรกเกอร์อีกจำนวน 180,000 ยูนิต
“ในปี 2562 คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการผ่านเว็บไซต์ baania เฉลี่ย 1.5 ล้านคนต่อเดือน หรือประมาณ 18 ล้านคนต่อปี หรือ 1.5 ล้านรายต่อเดือน จากปัจจุบันช่วง 10 เดือนของปีนี้ อยู่ที่ 7 ล้านราย หรือเฉลี่ยเดือนละ 7 แสนราย และคาดว่าจำนวนผู้ใช้บริการปีนี้จะอยู่ที่ 9 ล้านราย ส่วนการจัดเก็บข้อมูลจะเริ่มขยายไปในจังหวัดรองที่มีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ และการเก็บข้อมูลซ้ำใน 26 จังหวัดที่บริษัทดำเนินการอยู่แล้ว” นางสาวอัญชนากล่าว
เปิดระบบประมาณการราคาบ้านอัจฉริยะ
วีรวัฒน์ รัตนวราหะ ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท บาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปี 2561 บริษัทได้เปิดบริการใหม่ ได้แก่ ระบบประมาณการราคาบ้านอัจฉริยะที่เรียกว่า Bestimate โดยใช้ฐานข้อมูล Big data อสังหาริมทรัพย์ที่รวบรวมอย่างเป็นระบบ มาวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาโดย baania เพื่อช่วยผู้บริโภค ผู้ประกอบการ สถาบันการเงิน โบรกเกอร์ ให้สามารถทราบราคาประมาณของสินทรัพย์ได้อย่างรวดเร็วก่อนเข้าสู่ระบบการประเมิน และระบบวิเคราะห์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ในเชิงลึกจากโซเชียล มีเดีย ที่เรียกว่า Baania Pulse โดยการนำ Big Data ในรูปแบบของข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Data) ทั้งใน เฟซบุ๊ก ยูทูบ ทวิตเตอร์ รวมถึงการโพสต์และการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ให้กลายมาเป็นข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจ (Business Insight) ได้
สำหรับระบบประมาณราคาบ้านอัจฉริยะได้เปิดให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ตั้งแต่เดือนที่ผ่าน และได้ขยายพื้นที่ให้บริการไปทั่วประเทศในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยมีผู้สนใจเข้ามาในเว็บเพจ Bestimate กว่า 90,000 ราย และมีผู้นำที่อยู่อาศัยเข้ามาใช้บริการประมาณราคาแล้ว 1,680 รายการ คิดเป็นมูลค่าที่อยู่อาศัย 5,934 ล้านบาท ส่วนใหญ่หรือประมาณ 71% เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย และ 49% เป็นการประมาณราคาที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ หรือประมาณ 59% ใช้บริการประมาณราคาที่อยู่อาศัย เพื่อต้องการทราบราคาบ้านในปัจจุบัน และอีก 41% ต้องการทราบราคาเพื่อนำไปใช้ในการขายที่อยู่อาศัย
เล็งเพิ่มบริการ Baania Decor
สำหรับในปี 2562 บริษัทมีแผนจะเปิดบริการ Baania Decor บริการค้นหาแบบบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าแต่งบ้านจากรูปภาพ โดยใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์(เอไอ) และสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบได้ทันที โดยเบื้องต้นจะร่วมมือกับกลุ่มเอสซีจีก่อน คาดว่าจะมีสินค้าหลายพันรายการให้เลือกซื้อ นอกจากนี้จะขยายความร่วมมือกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ รวมทั้งผู้ประกอบธุรกิจรายกลาง รายเล็ก ในท้องถิ่น เพื่อให้ใช้เป็นช่องทางหนึ่งในการขายสินค้า ส่วนการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยโดยตรงผ่านระบบบาเนียกับธนาคารอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาได้พัฒนาระบบบาเนียแลนด์ เป็นฐานข้อมูลที่ดินครอบคลุมผังเมือง ระบบคมนาคมขนส่ง เส้นทางรถไฟฟ้า ช่วยลดขั้นตอนการทำงาน ต้นทุน และเวลาให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้ง พัฒนาบริการระบบประเมินราคาบ้านอัตโนมัติ(Bestimate) ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถประเมินราคาบ้านของตนเองได้ เปิดทดลองในช่วง 4 เดือน มีผู้ใช้งานแล้วเกือบ 1 แสนราย ประเมินราคาไปกว่า 1,700 รายการมูลค่าการประเมิน 6,000 ล้านบาท อาทิ ในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี เป็นต้น ส่วนใหญ่ บ้าน คอนโดมิเนียมและทาวน์โฮม โดยผู้ที่เข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นเจ้าของเองที่ต้องการเข้ามาเช็คราคาก่อน แต่ยังไม่ต้องการขาย