เฮเฟเล่ ประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ในรอบ 25 ปี ยุบฝ่ายขายรวมกับฝ่ายการตลาด หวังบูรณาการในการบริการกลุ่มลูกค้า ทั้งโครงการเอกชน-รัฐ และรายย่อย สร้างยอดขายเติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืน เผยปี 65 มั่นใจสร้างสถิติการขายสูงถึง 4,300 ล้านบาท เติบโตถึง 16% ปัจจัยช่องทางการขายและสินค้ามีหลากหลายธุรกิจ
น.ส.พรรณวรา เพ็งเจริญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด (National Marketing Management Manager) บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เฮเฟเล่ ประเทศไทย ได้มีการปรับผังองค์กรครั้งใหญ่ในรอบ 25 ปี จากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 จึงเป็นโอกาสและจังหวะที่ดีในการปรับองค์กร เพื่อให้การทำงานกระชับขึ้น โดยได้รวมหมวดผลิตภัณฑ์มาร่วมอยู่ในหมวดการตลาดทั้งหมด ส่งผลให้ฝ่ายการตลาดจะเพิ่มบทบาทและความรับผิดชอบที่กว้างขึ้น ทั้งในเรื่องของผลิตภัณฑ์ การตลาด เทรดมาร์เก็ตติ้ง การดูแลลูกค้า
“ตนเข้ามาดูฝ่ายการตลาดในโครงสร้างใหม่ของบริษัทเป็นปีแรก เดิมรับผิดชอบฝ่ายผลิตภัณฑ์ด้านกลุ่มสินค้าห้องน้ำเฮเฟเล่ มา 4 ปี ซึ่งการปรับแผนครั้งนี้ พอเราเห็น ปัญหา จากเดิมมาร์เก็ตติ้งจะแยก รับผิดชอบอยู่หลังบ้าน ขณะที่ฝ่ายขายก็จะเดินหน้าเรื่องขายสินค้า ในบางครั้งอาจทำให้การส่งผ่านบริการหรือขายผลิตภัณฑ์อาจไม่สอดรับและต่อเนื่องกัน ทำให้ลูกค้าหลุดไปได้ เราจึงยุบรวมกัน เพื่อให้มีความชัดเจนและเชื่อมการทำงาน ของการทำตลาด การออกผลิตภัณฑ์ การส่งเสริมโปรโมชั่น จะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพ ในการตอบสนองต่อความต้องการของทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งกลุ่มโครงการภาคเอกชนและโครงการภาครัฐ ตั้งแต่การออกแบบ การพัฒนาโครงการทั้งหมด และลูกค้ารายย่อย ส่งผลดีในการสร้างยอดขายที่เติบโตในทุกๆปี ซึ่งการปรับเปลี่ยนองค์กรต้องใช้เวลา แต่คาดว่าจะเห็นผลชัดเจนในการรุกตลาดและเชิงผลประกอบการที่สูงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566”
สำหรับผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม-กันยายน) เติบโตเพิ่มขึ้น 16% สาเหตุหลักมาจาก 1.ธุรกิจของเฮเฟเล่ฯมีช่องทางการขายที่หลากหลาย โดยเฉพาะในช่องการขายแบบธุรกิจสู่กลุ่มผู้บริโภค (ร้านค้าและค้าปลีก) (Business-to-Customer : B2C)
ส่วนยอดขายกลุ่มธุรกิจสู่เจ้าของธุรกิจ (ลูกค้าโครงการ ลูกค้าเชนสโตร์ หมวดโรงงาน) (Business-to-Business : B2B) ชะลอตัวตามภาวะโควิด , มีช่องทางขายผ่านร้านค้ามากกว่า 1,000 ร้านค้า และการขายผ่านระบบอี-คอมเมิร์ซ ขณะที่ มีสินค้ากว่าหลายหมื่น SKU ( Stock Keeping Unit) และราคาของผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ส่งผลให้ยอดขายปีนี้สูงถึง 4,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 450 ล้านบาท (ปี 2564 อยู่ที่ 3,850 ล้านบาท) หรือเติบโตจากปีที่ 2564 ประมาณ 16%
ปัจจุบัน ในกลุ่ม B2C มีสัดส่วน 52% ของยอดขายทั้งหมด ช่องทางขาย B2B มีสัดส่วน 41% และอื่นๆมีสัดส่วน 7%
ส่วนสินค้าขายได้ดี ได้แก่ ( 1.) กลุ่ม Hardware (โครงสร้างบ้าน ซึ่งบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1) มีสัดส่วนต่อยอดขาย 37% (2.) กลุ่ม Furniture Fitting (อุปกรณ์ที่นำมาประกอบเป็นเฟอร์นิเจอร์) (มูลค่าตลาด 20,000ล้านบาท) ประมา ณ 27 % (3.) กลุ่ม Sanitary (ห้องน้ำและสุขภัณฑ์) ประมาณ 18% 4.กลุ่มHome App (ห้องครัว) 13 % และอื่นๆ สัดส่วนประมาณ 5% (เช่น หมวดอี-คอมเมิร์ซ์ และหมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าอัจฉริยะ)***
นอกจากนี้ ตั้งทีมพิเศษขึ้นมา เข้าไปเจาะโครงการรัฐมากขึ้น วางเป้าใน 3 ปีข้างหน้ามีงานในโครงการภาครัฐมากขึ้น
น.ส.พรรณวรา กล่าวว่า เฮเฟเล่ ได้จัดงาน “Häfele Big Clearance Sale 2022” ครั้งที่19 โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ของปี โดยการจัดงานในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ลูกค้าให้การตอบรับดี เพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อ และเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้า เฮเฟเล่ จึงได้จัดงานนี้เพื่อให้ลูกค้าได้ช้อปสินค้าอุปกรณ์ตกแต่งบ้านอีกครั้ง ที่เฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ สุขุมวิทย ซ.64 ระหว่างวันที่ 6-8 ตุลาคมนี้