ลลิลฯ ดึง Big Data ถอดรหัสความต้องการผู้บริโภค

จากความต้องการระดับพื้นฐานของผู้บริโภคในอดีตสู่ความต้องการที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในปัจจุบันคือโจทย์ที่ผู้พัฒนาโครงการต้องใส่ใจและปรับรูปแบบการสร้างสรรค์โครงการให้เหมาะสมอยู่เสมอ


ชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความต้องการที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นของผู้บริโภคคือโจทย์ที่ท้าทาย หัวใจการพัฒนาบ้านของบริษัทฯ คือการส่งมอบบ้านที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า ในอดีตความต้องการของลูกค้าไม่ได้มีความซับซ้อนดังเช่นปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นความต้องการพื้นฐานเท่านั้น อาทิเช่น มีห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว ห้องน้ำ ที่จอดรถ

แต่ในปัจจุบันบ้านถูกจัดแบ่งเป็นเซกเมนต์ต่างๆมากมาย เหตุเพราะความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับตัวให้ทัน เพราะต้องเน้นย้ำในเรื่องการใส่ใจรายละเอียดอยู่เสมอ บ้านต้องสามารถใช้อยู่อาศัยได้ในระยะยาวมีความคุ้มค่าในสายตาของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ซึ่งจะทำได้นั้นต้องนำปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของผู้บริโภคมาวิเคราะห์และสร้างสรรค์สิ่งต่างๆให้ตอบโจทย์ได้อย่างเหมาะสม ทั้งด้านทำเล ดีไซน์รูปลักษณ์ภายในและภายนอก แต่ที่ละเอียดอ่อนมากๆคือการจัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้ตรงตามความชอบของกลุ่มลูกค้าแต่ละเซกเมนต์ ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้คือสิ่งที่ ลลิลฯ ให้ความสำคัญและปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนไปในแต่ละยุค


ส่งมอบไลฟ์สไตล์ของการอยู่อาศัยที่ลงตัว

“ทุกครั้งที่พัฒนาโครงการเราจะคิดเสมอว่าจะต้องสร้างสังคมการอยู่อาศัยที่ครบครันให้ตรงใจผู้บริโภค ซึ่งเราได้นำ Big Data ที่ได้จากทุกช่องทางมาวิเคราะห์เพื่อให้ทราบถึงการใช้ชีวิตประจำวัน ไลฟ์สไตล์ความชอบ เพื่อนำมาใช้ออกแบบแนวคิดในการสร้างสรรค์บ้านให้กลมกลืนกันในทุกส่วนของโครงการ ดังเช่นที่ ลลิลฯ ได้พัฒนาบ้านในแบบ French Colonial Style เป็นรายแรกของไทย จนสามารถสร้างกระแสนิยมแบบบ้านสไตล์ดังกล่าวได้ดีจนถึงปัจจุบัน” ชูรัชฏ์ กล่าว

ปัจจุบันทีม Product Development (PD) ของ ลลิล ได้นำข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการวิเคราะห์มาใช้เป็นโจทย์ในการออกแบบ ให้มั่นใจได้ว่าจะได้บ้านที่ตรงใจผู้บริโภคแต่ละเซกเมนต์ ทั้งนี้ยังคิดค้นนวัตกรรมเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะเข้ามาในอนาคต เพราะเมื่อความต้องการของลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วขึ้น การออกแบบก็ต้องมีการปรับตัวให้เร็วยิ่งขึ้นเช่นกัน หากต้องการเป็น Trend Setter ตัวจริง ก็ต้องขับเคลื่อนพลังความคิดให้รวดเร็วยิ่งกว่า

“นโยบายการทำงานของทีม PD จะมีการพัฒนาอยู่เสมอ ซึ่งไม่ได้พัฒนาเฉพาะดีไซน์ใหม่ๆเท่านั้น แต่รวมไปถึงการออกแบบฟังก์ชัน โดยจะนำเสียงสะท้อนจากผู้บริโภคมาเป็นแนวทางในการพัฒนาโครงการให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อที่จะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากที่สุด และที่สำคัญต้องไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนา แม้วันนี้จะดีที่สุดในสายตาของผู้บริโภค แต่เมื่อกาลเวลาเปลี่ยน กลุ่มลูกค้าเปลี่ยน ทุกอย่างเปลี่ยน ก็ต้องปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ เพราะการพัฒนาเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหยุดนิ่งได้ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เราต้องปรับตัวเพื่อส่งมอบ

About Kansuchaya Suvanakorn

ผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจมาเกือบ 30 ปี

View all posts by Kansuchaya Suvanakorn →

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *