‘ไซมิส แอสเสท’ ประกาศนับถอยหลังดีเดย์เปิดตัวมิกซ์ยูส ทุ่มทุนหมื่นล้าน บูมแลนด์มาร์คแห่งใหม่ Landmark @MRTA Station บนทำเลศักยภาพพระราม 9 ล่าสุดจับมือแบรนด์ชั้นนำระดับโลก Cassia แบรนด์ภายใต้เครือ Banyan Tree Group และ Crowne Plaza ภายใต้เครือ IHG Hotels & Resorts ส่งมอบประสบการณ์ Exclusive Lifestyle ชี้ยอดจองวิ่งกว่า 50% ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและลงทุน
ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA เปิดเผยว่า การพัฒนาโครงการในคอนเซ็ปต์ “มิกซ์ยูส” (Mixed-Use) เป็นหนึ่งในอสังหาริมทรัพย์ที่สอดรับกับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่มากที่สุด ด้วยรูปแบบโครงการที่แวดล้อมที่ครบทุกมิติของการใช้ชีวิต ทำงาน ประชุมสัมมนา พักอาศัย ร้านอาหาร Co-Working Space พื้นที่กิจกรรม และคอมมูนิตี้ มอลล์ รวมทุกความสะดวกสบายไว้ครบในจุดเดียว และเมื่อตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพถนนพระราม 9 ด้วยแล้วยิ่งเป็นการสร้างมูลค่าให้กับอสังหาฯ ที่จะเติบโตได้อีกมากในอนาคต
“ที่ผ่านมา เราพัฒนาโครงการที่เป็นมากกว่าการอยู่อาศัย โดยเน้นการตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ลงตัว เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย ให้คุณค่าทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและในด้านการลงทุน”
โดยโครงการ Landmark @MRTAเป็นมิกซ์ยูส ที่พัฒนาขึ้นบนทำเลศักยภาพ ถนนพระราม 9 พื้นที่โครงการกว่า 13 ไร่ ทำเลใกล้สถานี MRTA เพียง 350 เมตร การเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างเส้นทางถนนพระราม 9, ถนนรัชดาภิเษก และถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นการรวมทุกอย่างไว้ครบภายในโครงการ ได้แก่ อาคารสำนักงาน
รีเทล และที่พักอาศัย โดยภายในโครงการนี้ ประกอบด้วย 3 อาคาร ได้แก่ อาคาร A สูง 18 ชั้น อาคาร B สูง 38 ชั้น (Siamese Tower) อาคาร C สูง 29 ชั้น (Siamese Residence) รวมชั้นดาดฟ้า ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 27 – 205 ตารางเมตร มูลค่าโครงการรวม 10,000 ล้านบาท
“ผลตอบแทนจากการซื้ออสังหาฯ ทั้งเพื่ออยู่เอง และการลงทุน นอกจากทำเลที่ตั้ง ตัวอสังหาฯ เช่นบ้าน คอนโด ยังต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก การเดินทาง ยังรวมถึงโอกาสการเติบโตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งในต่างประเทศโครงการมิกซ์ยูส ที่มีครบทุกอย่างในโครงการ บวกกับทำเลที่โดดเด่น ทำให้เห็นแล้วว่า มูลค่าสินทรัพย์มีการเติบโตในอนาคต ไม่ว่าจะเปลี่ยนมือ หรือ ถือครองไว้อยู่ก็ตาม”
Branded Brand จับมือแบรนด์ชั้นนำเสริมพลังธุรกิจ
ด้วยแนวคิดการพัฒนาโครงการในคอนเซ็ปต์ “มิกซ์ยูส” ในความตั้งใจของ ไซมิส แอสเสท นอกจากความสะดวกสบายแล้วยังใส่ใจถึงคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย
“ส่วนบริการที่เกิดขึ้นภายในโครงการ บริษัทฯ ได้ร่วมกับมืออาชีพที่เป็นแบรนด์ชั้นนำ และมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการแต่ละด้านเข้ามาเป็นทำงานร่วมกัน เพื่อให้ทุกคนที่อยู่ภายในโครงการได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในแบบ Exclusive Lifestyle”
ในส่วนของที่พักอาศัยของอาคาร A อยู่ระหว่างการพัฒนาและเจรจากับแบรนด์ระดับโลก อาทิ Crowne Plaza ในเครือของ IHG Hotels & Resorts ที่จะมาเป็นทีมช่วยดูแล บริหารงานและให้บริการ แต่ส่วนของ Siamese Tower ได้ข้อสรุปแล้ว เป็นอาคารที่ได้ต่อยอดและพัฒนาธุรกิจมาเป็นในรูปแบบของ Branded Residence บริหารงานโดย Cassia แบรนด์ภายใต้เครือ Banyan Tree Group ซึ่งผู้ที่พักอาศัยจะได้รับบริการ Concierge, Room Service และ บริการอื่น ๆ รวมถึง บริหารงานดูแลส่วนกลางทั้ง Co-working Space, Retail, Cafe & Restaurant ในอาคาร พื้นที่ด้านล่าง และ ชั้น Rooftop ในมาตรฐานโรงแรมระดับ 5 ดาว สไตล์บายันทรี”
“ความร่วมมือแบรนด์มาตรฐานระดับโลกเป็นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย ทั้งที่อยู่เอง และการลงทุนเพื่อปล่อยเช่ากับโอกาสในการรับผลตอบแทนที่คุ้มค่า”
ก้าวที่เติบโต ‘ไซมิส แอสเสท’
ปัจจุบัน Landmark @MRTA Station มีความคืบหน้าของการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง โดย วันที่ 28 ธ.ค. 2564 ในส่วนของ ตึก Siamese Tower หรือตึก B รวมถึง ตึก Siamese Residence หรือตึก C มียอดจองรวมกันทั้งหมดไปแล้วเกินกว่า 50% ทั้งนี้ในส่วนของงานก่อสร้างโครงการทั้งหมด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2567 แต่จะมีบางส่วนที่แล้วเสร็จช่วงกลางปี 2566 นี้
ในส่วนของ การเติบโตในภาพรวมของ ‘ไซมิส แอสเสท’นั้นนายขจรศิษฐ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้มองถึงความสำคัญของการสร้างสมดุลระหว่างสัดส่วนรายได้จากการขายและเช่า ซึ่งเป็นการปรับโมเดลธุรกิจเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงและสร้างการเติบโตได้แม้ในภาวะวิกฤต ซึ่งนอกจากพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายเป็นหลัก ปรับมาสู่การให้ความสำคัญกับโครงการมิกซ์ยูส ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีรายได้ในกลุ่มธุรกิจเพื่อเช่าให้มากขึ้น จากที่มีรายได้ในกลุ่มอสังหาฯ เพื่อขาย เป็นสัดส่วนมากถึง 95% ส่วนอีก 5% มาจากกลุ่มอสังหาฯ เพื่อเช่า
ทั้งนี้ นอกจาก Landmark @MRTA Station บริษัทยังได้เตรียมเปิดโครงการ Landmark By Siamese Asset ย่านรามอินทรา ชื่อ โครงการ Landmark @รามอินทรา แกรนด์สเตชั่น และ ย่านเกษตร ชื่อโครงการ Landmark @เกษตรศาสตร์ ทุ่งสองห้องสเตชั่น ซึ่งเป็นการพัฒนาในรูปแบบของ “มิกซ์ยูส” ประกอบด้วย โรงแรม ห้องชุดพักอาศัย พื้นที่เชิงพาณิชย์ และห้องประชุม ซึ่งจะเปิดขายในมีนาคมนี้เช่นเดียวกับ Landmark @MRTA Station พระราม9 และ Cassia Residences Rama9 Bangkok ซึ่งอยู่ในอาคาร B จะมีงานใหญ่ VVIP Day เปิดขายครั้งแรก ในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565 พร้อมชมห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายของโครงการได้แล้ว วันนี้
Station บนทำเลศักยภาพพระราม 9
ล่าสุดจับมือแบรนด์ชั้นนำระดับโลก Cassia
แบรนด์ภายใต้เครือ Banyan Tree Group และ Crowne Plaza ภายใต้เครือ IHG Hotels & Resorts ส่งมอบประสบการณ์ Exclusive Lifestyle ชี้ยอดจองวิ่งกว่า 50% ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและลงทุน
ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต” เปิดเผยว่า การพัฒนาโครงการในคอนเซ็ปต์ “มิกซ์ยูส” (Mixed-Use) เป็นหนึ่งในอสังหาริมทรัพย์ที่สอดรับกับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่มากที่สุด ด้วยรูปแบบโครงการที่แวดล้อมที่ครบทุกมิติของการใช้ชีวิต ทำงาน ประชุมสัมมนา พักอาศัย ร้านอาหาร Co-Working Space พื้นที่กิจกรรม และคอมมูนิตี้ มอลล์ รวมทุกความสะดวกสบายไว้ครบในจุดเดียว และเมื่อตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพถนนพระราม 9 ด้วยแล้วยิ่งเป็นการสร้างมูลค่าให้กับอสังหาฯ ที่จะเติบโตได้อีกมากในอนาคต
“ที่ผ่านมา เราพัฒนาโครงการที่เป็นมากกว่าการอยู่อาศัย โดยเน้นการตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ลงตัว เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย ให้คุณค่าทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและในด้านการลงทุน”
โดยโครงการ Landmark @MRTAเป็นมิกซ์ยูส ที่พัฒนาขึ้นบนทำเลศักยภาพ ถนนพระราม 9 พื้นที่โครงการกว่า 13 ไร่ ทำเลใกล้สถานี MRTA เพียง 350 เมตร การเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างเส้นทางถนนพระราม 9, ถนนรัชดาภิเษก และถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นการรวมทุกอย่างไว้ครบภายในโครงการ ได้แก่ อาคารสำนักงาน
รีเทล และที่พักอาศัย โดยภายในโครงการนี้ ประกอบด้วย 3 อาคาร ได้แก่ อาคาร A สูง 18 ชั้น อาคาร B สูง 38 ชั้น (Siamese Tower) อาคาร C สูง 29 ชั้น (Siamese Residence) รวมชั้นดาดฟ้า ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 27 – 205 ตารางเมตร มูลค่าโครงการรวม 10,000 ล้านบาท
“ผลตอบแทนจากการซื้ออสังหาฯ ทั้งเพื่ออยู่เอง และการลงทุน นอกจากทำเลที่ตั้ง ตัวอสังหาฯ เช่นบ้าน คอนโด ยังต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก การเดินทาง ยังรวมถึงโอกาสการเติบโตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งในต่างประเทศโครงการมิกซ์ยูส ที่มีครบทุกอย่างในโครงการ บวกกับทำเลที่โดดเด่น ทำให้เห็นแล้วว่า มูลค่าสินทรัพย์มีการเติบโตในอนาคต ไม่ว่าจะเปลี่ยนมือ หรือ ถือครองไว้อยู่ก็ตาม”