ตลาดบ้านหรูรระดับราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป ยังเป็นสินค้า”ดาวรุ่ง” ที่บรรดาผู้ประกอบในตลาดหลักทรัพย์ฯ หันมารุกขยายตลาดนี้เพิ่มมากขึ้น ต่างทยอยเปิดโครงการออกมาประชันโฉม เพราะมองว่ามีดีมานด์ที่ดี และลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากหนี้ครัวเรือน และภาวะเศรษฐกิจ ล่าสุด สถาพร เอสเตท ประเดิมเปิดตัวโครงการแรก “ดิ อิเธอร์นิตี้ เวอร์ดัวร์ พระราม 9 – วงแหวน” บ้านเดี่ยว MODERN LUXURY จำนวน 70 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 11.9 – 17 ล้านบาท
สุนทร สถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทวางแผนเปิดตัวโครงการระดับโฮเอนด์ใหม่ 2 โครงการ ประกอบด้วย บ้านแนวราบ 2 โดยเปิดตัวไปแล้ว 1 โครงการคือ ดิ อิเธอร์นิตี้ เวอร์ดัวร์ พระราม 9 – วงแหวน เป็นบ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์น ลักชัวรี จำนวน 70 ยูนิต มูลค่าโครงการ 760 ล้านบาท
ส่วนในช่วงปลายปีจะเปิดตัวบ้านเดี่ยวในย่านสุขาภิบาล 5-วัชรพล แบรนด์ดิ อิเธอร์นิตี้ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 15 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีราคาขาย 10-15 ล้านบาท
สำหรับรายละเอียดของโครงการดิ อิเธอร์นิตี้ เวอร์ดัวร์ พระราม 9 – วงแหวน ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 16ไร่ เป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมด 70 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 11.9 – 17 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนกาญจนาภิเษกที่เชื่อมต่อถนนพระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา สามารถเดินทางเข้าและออกเมืองได้อย่างสะดวก พร้อมทั้งใกล้จุดเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ สถานีบ้านทับช้าง รถไฟฟ้าสายสีส้ม รวมถึงใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ
ออกแบบภายใต้แนวคิด “WHERE HAPPINESS NEVER ENDS” ดีไซน์แบบ MODERN LUXURY มีดีไซน์ฟังก์ชันที่ครบครัน ประกอบด้วยแบบบ้าน 3 รูปแบบ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 55 – 80 ตารางวา ได้แก่ แบบ ARCADIA พื้นที่ใช้สอย 185 ตารางเมตร มี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถสำหรับ 2 คัน พร้อมกับเพิ่มพื้นที่ Chill Out Area สำหรับครอบครัว แบบ IDYLLIC พื้นที่ใช้สอย 220 ตารางเมตร มี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถสำหรับ 3 คัน และแบบ LUXURIANT พื้นที่ใช้สอย 250 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 3 คัน ที่ตอบโจทย์ความต้องการในทุกด้านของการอยู่อาศํย ที่มุ่งเน้นในเรื่อง ดีไซน์ ฟังชั่น และฟาซิลิตี้ เจาะตลาดลูกค้า “FAM” หมายถึงกลุ่มครอบครัวที่มีไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ และต้องการมี Work-Life-Balance ที่ดี
โดยบ้านทุกหลังก่อสร้างด้วยอิฐมวลเบา ภายในตัวบ้านเน้นความโปร่งโล่ง ด้วยกระจกทรงสูงและความสูงของตัวบ้านจากพื้นถึงฝ้าเผดานสูง 3 เมตร และ Flexible Living Room ดีไซน์พื้นที่เพื่อให้ยืดหยุ่นตามการอยู่อาศัยของลูกบ้านรวมถึง Sky Multifunction พื้นที่สำหรับพิเศษบนชั้น 2 ของบ้าน นอกจากนี้ยังได้ติดตั้ง EV Charger Support เพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้าของลูกบ้านอีกด้วย
“ภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยวในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทำเลกรุงเทพฝั่งตะวันออกยังคงมีดีมานด์เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 1,700 หลังต่อเขต และถือเป็นอีกหนึ่งในทำเลเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากมีความสะดวกสบายในการเดินทาง สามารถเชื่อมต่อไปยังย่านพระราม 9 หรือย่านศูนย์กลางเมืองได้ง่ายด้วยถนนหลากหลายเส้นทาง”สุนทรกล่าว
สุนทร กล่าวต่อว่า โครงการดังกล่าว จะเริ่มทยอยโอนบ้านให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2นี้เป็นต้นไป โดยจะเริ่มโอนก่อน 5 หลังแรก และจนถึงสิ้นปีนี้จะทยอยสร้างบ้านและโอนบ้านให้กับลูกค้าได้ประมาณ 50 ยูนิต
สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 1,900 ล้านบาท และรายได้ 1,300 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย 6 โครงการทั้งบ้านแนวราบและอาคารสูง อาทิ โครงการดิ อิเธอร์นิตี้ โกรฟ สายไหม-พหลฯ,ดิ อิเธอร์นิตี้ กรีนวูด รังสิต-วงแหวน,ดิ อิเธอร์นิตี้ พระราม 9-วงแหวน,เดอะคราวน์ เรสซิเดนท์เซส และโครงการเดอะ เชดด์ สาทร 1 เป็นคอนโดฯพร้อมอยู่ ราคาขายกว่า 3ล้านบาท ปัจจุบันทำยอดขายได้แล้วกว่า 50%
