“เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” เป็นเบอร์ 1 ที่อยู่อาศัยที่ให้เลี้ยงสัตว์ได้ (Pet Friendly Residence) ทุกโครงการ พลิกโฉมการเติบโตสู่อีกระดับ ผ่านการสร้างความแข็งแกร่ง 3 ด้าน ธุรกิจอสังหาฯ-แบรนด์-ธุรกิจใหม่ ตอกย้ำสู่การเป็น LifeScape จะว่าไปแล้ว เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เป็นอีกบริษัทที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ด้วยบทเรียนเคยมีมา นำมาตั้งรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 มุ่งบริหารความเสี่ยงด้วยกลยุทธ์ทุกรูปแบบ
“จากจุดแรก ด้วยการห้ามเลือดให้หยุดไหลก่อน เน้นการบริหารกระแสเงินสด เร่งระบายสต็อกสินค้าในมือทั้งที่อยยู่ระหว่างก่อสร้างและสร้างเสร็จพร้อมอยู่ จนสามารถปิดการขายโครงการได้ถึง 13 โครงการ รวมถึงหันมาปรับปรุงองค์กรให้สอดรับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป “ เพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เล่าถึงกลยุทธ์นำพาบริษัทยีนหยัดอยู่ได้ ท่ามกลางกระแสของโลกที่เปลี่ยนอย่างเร็ว ในเวลาข้ามคืน
พร้อมฉายภาพ ถึงแผนธุรกิจในปี 2566 กลุ่มเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จะกลับมาบุกตลาดอสังหาริมทรัพย์อีกครั้งทั้งบ้านแนวราบและอาคารสูงรวม 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 14,700 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเปิดตัวโครงการใหม่ต่อปีที่มากที่สุดในรอบ 24 ปีของบริษัทและเป็นการเปิดตัวบ้านแนวราบมากที่สุดถึง 5 โครงการ หลังจากไม่ได้มีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆในช่วง 2 ปี (ปี 2563-2564) หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดยในปีนี้ได้วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 14,700 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม Super Luxury High-rise 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 8,800 ล้านบาท และบ้านจัดสรร 5 โครงการ มูลค่าโครงการกว่า 5,900 ล้านบาท
พร้อมเปิดตัว 5 แบรนด์ใหม่เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายขึ้น ประกอบด้วย แบรนด์ Marquis คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี ตั้งอยู่ย่านพญาไท ระดับราคาขายตารางเมตรละ 265,000 บาท แบรนด์ Mayfield ทาวน์โฮมระดับไฮเอนด์ตั้งอยู่ที่ย่านปิ่นเกล้าและรามอินทรา ระดับราคาขาย 13.9 ล้านบาท แบรนด์ Mayfield Lane บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีราคาขาย 34-41 ล้านบาท ตั้งอยู่ย่านรัชดาฯ-ลาดพร้าว แบรนด์ Milford ทาวน์โฮมระดับไฮเอนด์ และแบรนด์ใหม่เป็น Super Luxury Limited Edition ตั้งอยู่ย่านพัฒนาการ ระดับราคาขาย 65-100 ล้านบาท ส่วนคอนโดฯไฮไรส์อีก 1โครงการใช้ชื่อว่า Muniq พร้อมพงษ์ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 38
พร้อมทั้ง จะผลักดันความแข็งแกร่งและศักยภาพ เพื่อการเติบโตไปอีกขั้น ผลักดันด้วย 3 ด้าน ได้แก่ 1.Solidify Residential-Scape ผลักดันความแข็งแกร่งให้กลุ่มธุรกิจหลัก 2.Fortify LifeScape & PetScape ตอกย้ำความแข็งแกร่งให้จุดเด่นของแบรนด์ และ 3.Diversify Revenue ปรับสัดส่วนประเภทของธุรกิจหลัก พร้อมผลักดันความแข็งแกร่งธุรกิจใหม่ ด้วยการขยายธุรกิจ ให้ครอบคลุมทุกมิติการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอีก 2 ธุรกิจคือ HealthScape และ TechScape
“แม้ในช่วงที่ผ่านมา เราจะชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ลงไป แต่เราไม่ได้อยู่เฉยๆ เราผ่าตัดองค์กรหลายๆ ด้าน เพื่อให้พร้อมรองรับการพลิกโฉมการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง มาดูแลด้านการพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าหรือ Customer Experience โดยตรง การปรับวิธีคิดของพนักงานให้เป็น Warrior Mindset มีวิธีคิดแบบนักสู้ พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ รวมถึงได้ทยอยลงทุนด้าน Digital Transformation พัฒนา Future Platform วางรากฐานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ปีนี้และปีหลังจากนี้ เรามั่นใจว่าจะสร้างการเติบโตสู่อีกระดับ” เพชรลดา กล่าว
เพชรลดา กล่าวอีกว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยและภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ มีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดี โดยเฉพาะจากภาคการท่องเที่ยว ที่จะช่วยสร้างเม็ดเงินสะพัด เพิ่มบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย กำลังซื้อให้แก่ตลาด เมื่อประกอบกับแผนธุรกิจ LifeScape at a New Height การเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ การฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและอาคารสำนักงานมาช่วยสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ตลอดจนการเดินหน้าลุยธุรกิจใหม่ บริษัทมั่นใจว่า ภาพรวมธุรกิจของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จะเติบโตได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 7,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 200%จากปี 2565 ที่ทำยอดขายได้ 3,800 ล้านบาท และรายได้ 5,000 ล้านบาท โดยมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายจำนวน 16 โครงการมูลค่า 31,900 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโด 5โครงการมูลค่า 17,000 ล้านบาท และบ้านแนวราบ 11โครงการมูลค่า 14,900 ล้านบาท
สำหรับแผนการลงทุนลงทุนในอนาคต บริษัทเตรียมจะเปิดตัวโครงการมิกซ์ยูสในย่านอารีย์ มูลค่าโครงการประมาณ 6,000 ล้านบาท มีทั้งคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงานและพื้นที่รีเทล รวมทั้งจะเปิดตัวคอนโดแบรนด์ Maru ย่านจุฬาฯ-สามย่านด้วย
“โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อยู่สถานการณ์ที่มีความซับซ้อนคลุมเคลือ เราเตรียมความพร้อมตลอดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อก้าวต่อไปให้เร็วและเติบโตอย่างแข็งแกร่งในโลกที่ไม่เหมือนเดิม วันนี้ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์พร้อมที่จะสู้แรงต้านเกิดขึ้นทุกรูปแบบ” เพชรลดากล่าวทิ้งท้าย