หลังนโยบายการเปิดประเทศของจีน ที่จะมีผลในวันที่ 8 มกราคม 2566 บริษัทวิจัยหลายแห่งต่างประเมินว่า สามารถกระตุ้นกำลังซื้ออสังหาริมทรัยพ์ในปีนี้เพิ่มขึ้น ขณะที่ การเปิดตัวที่อยู่อาศัยใหม่ ปี 2565 เติบโตเกือบเท่าตัว
นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) ให้ความเห็นถึงนโยบายการเปิดประเทศของจีนที่จะมีผลในวันที่ 8 มกราคม 2566 ว่า จะสามารถกระตุ้นกำลังซื้อที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะอาคารชุดพักอาศัยในประเทศไทยได้เพิ่มขึ้น จากข้อมูลการซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดพักอาศัยของชาวต่างชาติในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2561-ครึ่งแรกของปี 2565 พบว่า ชาวจีนเป็นผู้ซื้อและโอนกรรมสิทธิห้องชุดพักอาศัยสูงสุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย
โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 พบว่า มียอดโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ ทั่วประเทศ 4,433 หน่วย เพิ่มขึ้น 1.4% จากระยะเดียวกันของปี 2564 คิดเป็นมูลค่า 22,331 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2564
ราคาไม่เกิน 3 ล้านโอนมากสุด
โดยราคาห้องชุดที่มีจำนวนหน่วยโอนมากที่สุด ในครึ่งแรกของปี 2565 คือ ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท : คิดเป็นสัดส่วน 52.6% รองลงมาคือ ราคา 3-5 ล้านบาท 23.9% เป็นห้องชุดขนาด 31-60 ตร.ม. ประเภท 1-2 ห้องนอน มีจำนวนหน่วยโอนมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 46% รองลงมาคือ ขนาดไม่เกิน 30 ตร.ม. ประเภทสตูดิโอหรือ 1 ห้องนอน สัดส่วน 37.8%
จีนแชมป์โอนมากสุดมูลค่า 5,931 ล้านบาท
จากการรวบรวมข้อมูลของกรมที่ดิน พบว่า ผู้ซื้อสัญชาติ “จีน’ มีการโอนกรรมสิทธิ์สูงสุด ทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 1,124 หน่วย มูลค่า 5,931 ล้านบาท ตามมาด้วย รัสเซีย จำนวน 129 หน่วย มูลค่า 415 ล้านบาท, สหรัฐอเมริกา จำนวน 116 หน่วย มูลค่า 643 ล้านบาท, เยอรมัน จำนวน 80 หน่วย มูลค่า 266 ล้านบาท และ อินเดีย เป็นลำดับที่ 5 มี จำนวนการโอน 79 หน่วย มูลค่า 353 ล้านบาท ตามลำดับ
จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่าถึงแม้ช่วงปี 2563-2565 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศจีนปิดประเทศ นักลงทุนชาวจีนยังคงเข้ามาซื้อห้องชุดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องถึงแม้จะมีปริมาณลดลงเมื่อเทียบกับปี 2561-2562 ก็ตาม เนื่องจากชาวจีนสนใจเข้ามาลงทุนซื้อห้องชุดในประเทศไทยทั้งเพื่อการลงทุน และเป็นบ้านพักหลังที่ 2 โดยที่ราคาห้องชุดในประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ยังคงมีราคาที่ถูกกว่าห้องชุดในเมืองใหญ่ของประเทศจีนไม่น้อยกว่า 50%
“เมื่อเร็วๆ นี้ก็มีนักลงทุนชาวจีนสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยติดต่อขอข้อมูลเข้ามาที่เรา และสนใจที่จะเข้ามาลงทุนซื้ออาคารชุดในประเทศไทยในปี 2566
ในขณะที่การเปิดประเทศของจีนให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้า-ออกประเทศจีนได้หลังจากการปิดประเทศจากสถานการณ์ COVID-19 จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนชาวจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยและซื้ออสังหาฯ ในประเทศไทยได้มากขึ้น จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการอสังหาฯ ในปี 2566 “ นายประพันธ์ศักดิ์ กลาว