สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน โชว์ผลงานปี 2565 เติบโตแบบก้าวกระโดด ทุบสถิติยอดจองสร้างบ้านทั่วประเทศกว่า 8 พันล้าน จำนวนสมาชิกเพิ่มเท่าตัว เชื่อมเน็ตเวิร์คความร่วมมือกับพันธมิตรเอกชนและหน่วยงานรัฐเสริมแกร่งศักยภาพ ชี้ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านปี 2566 ขยายตัวต่อเนื่องจากปัจจัยบวกเรียลดีมานด์ รุกขยายตลาดรับสร้างบ้านทั่วไทย
นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association : HBA) เปิดเผยว่าแนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านในปี 2566 แม้ยังมีปัจจัยลบเช่น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ความไม่แน่นอนของราคาน้ำมัน รวมถึงการอ่อนค่าของเงินบาท ที่จะมีผลต่อต้นทุนวัสดุก่อสร้างรวมถึงค่าขนส่ง แต่จากที่ตลาดรับสร้างบ้านในปี 2565 มีการเติบโตที่ดี แสดงให้เห็นว่าความต้องการบ้านพักอาศัย (เรียลดีมานด์) ยังมีอยู่ จึงน่าจะมีแรงส่งให้ตลาดรับสร้างบ้านในปี 2566 มีโอกาสขยายตัวต่อเนื่อง จากผู้บริโภคที่เริ่มรับรู้และหันมาใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านมากขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม เช่นคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย การท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว
สำหรับปี 2566 สมาคมฯวางแผนเชิงรุกขยายจำนวนสมาชิกสมาคมฯ ในต่างจังหวัดมากขึ้น ทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือที่ยังไม่มีสมาชิก จากปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ 135 บริษัท แบ่งออกเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน 72 บริษัท และวัสดุก่อสร้าง 63 บริษัท
” ตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น จึงเป็นตลาดที่ยังมีโอกาสสูง ด้วยมูลค่าที่สูงกว่า 1 แสนล้านบาท มีขนาดใหญ่มากกว่าตลาดรับสร้างบ้านในกรุงเทพฯถึง 1 เท่าตัว มีมูลค่าอยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท ประกอบกับในจังหวัดใหญ่ ๆ มีประชากรกำลังซื้อสูงอยู่จำนวนมาก จึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพอย่างมาก” นายวรวุฒิกล่าว
สำหรับภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านปี 2565 เฉพาะสมาชิกของสมาคมฯ มีมูลค่า 12,500 ล้านบาท จากการทำกิจกรรมทางการตลาดที่ช่วยสร้างยอดขายจาก 2 งาน ได้แก่ งานรับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2022 มียอดจอง 4,000 ล้านบาท งานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2022 สร้าง-เปลี่ยน-โลก ยอดจอง 4,800 ล้านบาท ขณะที่อีกปัจจัยหนึ่งมาจากการขยายตัวจากกลุ่มเรียลดีมานด์บ้านระดับ 100-200 ล้านบาทขึ้นไป หันมาสร้างบ้านกันมากขึ้น
นอกจากยอดจองสร้างบ้านแล้ว นายวรวุฒิ กล่าวว่า การทำงานร่วมกับพันธมิตรในโครงการต่าง ๆ ที่ได้ริเริ่ม พร้อมสานต่อความร่วมมือตั้งแต่ปี 2565 และต่อเนื่องในปี 2566 ได้แก่ โครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนในภาคที่อยู่อาศัย โครงการจัดทำมาตรฐานการก่อสร้างบ้านพักอาศัย และโครงการรับนักศึกษาทวิภาคี ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
นอกจากนี้ได้ทำความร่วมมือกับพันธมิตรในโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการบ้านประหยัดพลังงาน โดยมีการลงนามความร่วมมือกับพันธมิตร 5 หน่วยงาน ภายใต้โครงการ “การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนในภาคที่อยู่อาศัย
“โจทย์ใหญ่ตลาดรับสร้างบ้าน ปี 2566 คือ การเผชิญปัจจัยลบรอบด้าน ตั้งแต่เศรษฐกิจโลก ในหลายประเทศทั้งอเมริกา ยุโรป ถดถอย ภาวะเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยในไทยปีหน้าคาดขยับตัวตามโลก ส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อบ้านระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท” นายวรวุฒิกล่าวทิ้งท้าย