แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ฯ กำหนดนโยบายจัดกิจกรรมคืนประโยชน์สู่สังคมเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้ร่วมกับโครงการไปรษณีย์ reBox ส่งมอบชุดโต๊ะเก้าอี้ให้กับเด็กนักเรียนโดยผู้อยู่อาศัยในโครงการที่LPP
นางสาวสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) ผู้ให้บริการบริหารจัดการด้านอสังหาริมทรัพย์ ในกลุ่ม แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีหลักการบริหารโครงการภายใต้แนวคิด “ร่วมใจ ห่วงใย แบ่งปัน” ที่นอกจากปลูกฝังแนวคิดการดูแลซึ่งกันและกันในชุมชนแล้วยังเผื่อแผ่ความใส่ใจไปยังสังคมภายนอกด้วย
โดยเล็งเห็นความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม และการช่วยเหลือสังคมมาอย่างต่อเนื่อง LPP จึงริเริ่มโครงการ“ร่วมใจคืนประโยชน์สู่สังคม” เป็นประจำทุกปี โดยจะจัดกิจกรรมหรือเข้าร่วมกับโครงการที่สร้างประโยชน์ที่จับต้องได้ และเป็นกิจกรรมที่ผู้อยู่อาศัยในโครงการที่ LPP บริหารจัดการกว่า 200 โครงการสามารถมีส่วนร่วมได้
ซึ่งในปีนี้ LPP เข้าร่วมกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มอบโอกาสที่ดีสู่เยาวชนผ่าน โครงการ ไปรษณีย์ reBOX “reBOX toSchool” ซึ่งเป็นโครงการที่เชิญชวนให้ประชาชน องค์กรนำกล่องหรือซองกระดาษที่ไม่ใช้แล้วทุกประเภทมาร่วมบริจาค ณ จุดรับบริจาคเพื่อนำไปรีไซเคิลเป็นชุดโต๊ะ-เก้าอี้ ส่งมอบต่อให้แก่เด็กๆโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งถือเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ในการนำกล่องพัสดุและซองกระดาษที่ไม่ใช้แล้วมาต่อยอดสร้างประโยชน์ในด้านการศึกษา และช่วยเหลือเด็กนักเรียนในท้องที่ห่างไกล
โดยความร่วมมือในครั้งนี้ LPP ได้ร่วมรณรงค์เชิญชวนผู้พักอาศัยภายในโครงการเข้าร่วมกิจกรรมโดยการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์พร้อมตั้งจุดรับบริจาคกล่องและซองกระดาษที่ไม่ใช้แล้วภายในโครงการนิติบุคคลอาคารชุดพักอาศัยที่ LPP บริหารทั้งโครงการของ LPN และโครงการภายนอกเพื่อเชิญชวนให้เจ้าของร่วมและผู้พักอาศัยในโครงการต่างๆ กว่า 200แห่ง ร่วมกันนำ "กล่องและซองกระดาษ" ที่เหลือใช้มาบริจาค reBOX “reBOX to School”
“LPP เรามีเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนและสร้างประโยชน์คืนสู่สังคมตามแนวคิด “ร่วมใจ ห่วงใย แบ่งปัน”
โดยส่งผ่านกิจกรรมดีๆ ที่จะมีทุกปีเพื่อเชิญชวนให้เจ้าของร่วม และผู้พักอาศัยเข้ามามีส่วนร่วมส่งมอบสิ่งที่ดีคืนสู่สังคมร่วมกัน ภายใต้“โครงการร่วมใจคืนประโยชน์สู่สังคม” ที่จะมีขึ้นเป็นประจำในช่วงเดือนมิถุนายน – ตุลาคม”
นางสาวสมศรีกล่าว ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กันเป็นจำนวนมาก โครงการไปรษณีย์ reBOX “reBOX to School” ถือเป็นกิจกรรมดีๆ ที่ตอบโจทย์กับอัตราการเติบโตของตลาด อีคอมเมิร์ซช้อปปิ้งออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยการเติบโตที่รวดเร็วส่งผลให้เกิดขยะประเภทกล่องพัสดุและซองกระดาษเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก การนำกล่องพัสดุและซองกระดาษที่ยังแข็งแรงและมีสภาพดีกลับมาใช้ช้ำ หรือการนำไปต่อยอดในรูปแบบต่างๆเพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในกระบวนการผลิตและลดปริมาณขยะที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจึงถือเป็นเรื่องที่ดี และร่วมกันปลูกจิตสำนึก บริษัทในฐานะองค์กรที่เล็งเห็นความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมและการช่วยเหลือสังคมมาอย่างต่อเนื่อง
การเชิญชวนทุกท่านร่วมสนับสนุนโครงการไปรษณีย์ “reBOX to School” เปลี่ยนกล่องและซองกระดาษเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้ โดยท่านสามารถนำ "กล่องและซองกระดาษ" ที่ไม่ใช้แล้วไปร่วมส่งมอบด้วยตัวเอง ณ จุดรับบริจาคในโครงการนิติบุคคลอาคารชุดพักอาศัยที่เข้าร่วม และสำนักงานไปรษณีย์ไทยทุกแห่ง รวมถึงจุดรับบริจาคอื่นๆ ใกล้บ้านท่านได้จนถึง 31 ตุลาคมนี้ มาร่วมกันสานต่อและส่งมอบโอกาสที่ดีให้แก่เยาวชนไทย