“แสนสิริ” เปิดตัวแบรนด์ใหม่”เดมี”ลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนท์แนวคิดใหม่ เจาะกลุ่ม Young Successor

แสนสิริ มองภาพแนวโน้มโอกาสเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยลักซ์ชัวรี่แนวราบ ส่งสัญญาณบวก ยอดขาย14,766 ยูนิต คิดเป็นอัตราขายถึง 72% ณ สิ้นปี 64 และยังมีดีมานต์ต่อเนื่องในปี 65 ตั้งเป้ารายได้ตลาดลักช์ชัวรี่เติบโต 10-15%


อาณัติ กิตติกุลเมธี
รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยลักซ์ชัวรี่แนวราบไทยยังคงส่งสัญญาณบวกและแข็งแกร่ง อุปทานในกลุ่มนี้ยังมีไม่มากนัก ขณะที่อุปสงค์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อที่มีกำลังสูง โดยมีจำนวนหน่วยขายได้ไปทั้งสิ้นถึง 14,766 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายถึง 72% ในปีที่ผ่านมา โดยบ้านที่มีระดับราคาขายระหว่าง 10 – 20 ล้านบาท มีดีมานต์มากที่สุด รองลงมาคือ 21 – 30 ล้านบาท และ 31 – 40 ล้านบาท
ล่าสุดชูความเป็นผู้นำ Taste-Maker Brand ปี’65 เดินหน้าต่อยอดความความสำเร็จผู้นำตลาดลักซ์ชัวรี่ เปิดตัว “DEMI” (เดมี) ลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนซ์ แบรนด์ใหม่ล่าสุด ชู 3 ยุทธศาสตร์พัฒนาแบรนด์ “DEMI” (เดมี) ลักซ์ชัวรี เรสซิเดนซ์แนวคิดใหม่ Private Community จำกัดไม่เกิน 100 หลังในแต่ละโครงการ เน้นความเป็นส่วนตัวสูง ดีไซน์โดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันในแต่ละทำเลและไลฟ์สไตล์ลูกค้า ฟังก์ชันตอบโจทย์ Urban Lifestyle เจาะกลุ่ม Young Successor ระดับราคาเซ็กเมนท์ 15 – 28 ลบ. บนไพร์มโลเคชั่นใจกลางเมืองเชื่อมต่อ CBD


เปิดแบรนด์ใหม่ เดมี สาธุ49
เปิดตัวโครงการแรก “DEMI Sathu 49” (เดมี สาธุ 49) ดีลักซ์ ทาวน์โฮม มูลค่าโครงการ 1,600 ลบ. บนที่ดิน Rare Item ย่านสาธุฯ ราคาพุ่งสูง 57% ในรอบ 4ปี จากทำเลใกล้ CBD เชื่อมต่อ สุขุมวิท-สาทร-สีลม ชูจุดเด่น Exclusive Community เพียง 72 ยูนิต เชื่อมต่อสู่ CBD สุขุมวิท – สาทร – สีลม ราคา 18.9 – 35 ลบ. ดีไซน์โดดเด่นในแนวคิด “ชีวิตสมดุล” ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ กับฟังก์ชันรองรับการอยู่อาศัยคนเมือง พร้อมพื้นที่สีเขียวในบ้านทุกหลัง เปิดชมโครงการครั้งแรก 1 พ.ค.นี้

“เชื่อมั่น “DEMI” เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ใหม่โดนใจกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ หวัวยอดขายแนวราบปี 65 รวม 24,000 ล้านบาท และยอดโอนโครงการแนวราบ 22,000 ล้านบาท ตามเป้าที่วางไว้”  

การพัฒนาโครงการ DEMI ไม่จำกัดว่าจะเป็นโครงการทาวน์โฮมหรือบ้านเดี่ยว โดยจะต้องประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลัก คือ Private Community เน้นความเป็นส่วนตัวสูง จำกัดจำนวนยูนิตไม่เกิน 100 หลังในแต่ละโครงการ บนที่ดินและทำเลที่เป็น Rare item ดีไซน์และฟังก์ชันโดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่ง Customize ให้เหมาะกับในแต่ละทำเลและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า เจาะกลุ่ม Young Successor ที่ใช้ชีวิต แบบคนเมือง (Urban Lifestyle) และประสบความสำเร็จเร็ว เปิดขายในระดับราคา 15 – 28 ล้านบาท บนโลเคชั่นที่เน้นทำเลเมืองที่เชื่อมต่อใจกลางเมือง CBD โดยทำเลแรก สาธุประดิษฐ์ พร้อมเตรียมเปิดตัวในทำเลอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง

“แสนสิริ เห็นโอกาสที่เติบโตของตลาดลักซ์ชัวรี่แนวราบที่มีดีมานด์เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ Young Successor ที่ไม่ได้มีความเปราะบางเรื่องราคา เนื่องจากตัดสินซื้อบ้านเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต จึงพัฒนาแบรนด์ใหม่ขึ้น ภายใต้ชื่อ “DEMI” เพื่อตอบโจทย์ดีมานด์ที่ยังมีอยู่ในตลาด รวมทั้งสถานการณ์ปัจจุบันที่ใช้ชีวิตแบบ Social Distancing ทำให้คนต้องการบ้านที่มีพื้นที่อยู่อาศัยมากขึ้น แต่ยังคงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เมืองที่คุ้นเคยและสะดวกสบาย คนรุ่นใหม่ ต้องการใช้พื้นที่สำหรับการทำงานและการใช้ชีวิต และครอบครัวคนรุ่นใหม่ ต้องการพื้นที่ ที่สามารถตอบโจทย์ไฟล์สไตล์การใช้วิตที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้ากลุ่ม Young Successor ที่มองหาที่อยู่อาศัยในเมืองเดินทางสะดวกไม่ไกลจาก CBD เพราะยังคุ้นชินกับการชีวิตในเมือง แต่ก็ไม่ได้อยากอยู่คอนโด มองหา space ที่มากขึ้น” ” นายอาณัติ กล่าว

Rare Item
การหาที่ดินเพื่อ
พัฒนาโครงการแนวราบทำได้ยาก เนื่องจากอยู่ในทำเลใกล้เมือง รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และยังเป็นทำเลที่ราคาที่ดินมีอัตราการเติบโตสูง จากราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์ฉบับล่าสุด ราคาประเมินที่ดินสูงที่สุดในกรุงเทพฯ คือ ถนนสีลม อยู่ที่ 700,000 – 1,000,000 บาท/ตารางวา อัตราเติบโตเฉลี่ย ในช่วง 4 ปี อยู่ที่ 22% และราคาประเมินที่ดินทำเลถนนสาทร อยู่ที่ 600,000 บาท/ตารางวา อัตราเติบโตเฉลี่ยในช่วง 4 ปี อยู่ที่ 26% ขณะที่ราคาที่ดินในทำเล สาธุฯ – พระราม 3 นั้น มีอัตราการเติบโตพุ่งสูงกว่าราคาที่ดินในโซน CBD โดยอยู่ระหว่าง 37 – 57% ในช่วง 4 ปี และ ราคาที่ดินทำเลถนน สาธุประดิษฐ์ ล่าสุด อยู่ที่ 250,000 บาท ต่อตารางวา เพิ่มขึ้นถึง 57% ในรอบ 4 ปี และเพิ่มขึ้นถึง 284% ในเวลา 12 ปี
“เรา เชื่อมั่นว่า “เดมี” จะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ใหม่ตรงใจกลุ่มลูกค้า ที่ประสบความสำเร็จ จากความเชื่อมั่นในแบรนด์ แสนสิริ จากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากว่า 37 ปี ด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเข้าถึงลูกค้าในทุกระดับราคา ตอกย้ำผู้นำตลาดอสังหาฯลักซ์ชัวรี่ และแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน และสร้างยอดขายโครงการแนวราบในปีนี้ได้ 24,000 ล้านบาท และยอดโอนโครงการแนวราบ 22,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายอาณัติกล่าว

About Kansuchaya Suvanakorn

ผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจมาเกือบ 30 ปี

View all posts by Kansuchaya Suvanakorn →

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *