ออริจิ้น เปิดเกมรุกอีอีซีคาด 5 ปีรายได้แตะ 4 หมื่นล้าน

“ออริจิ้น อีอีซี” เปิดตัวซีอีโอใหม่ “ปิติ จารุกำจร” ปรับโครงสร้างธุรกิจสู่บริษัทลูกของวัน ออริจิ้น ร่วมขับเคลื่อนแผน Origin Multiverse พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและสมาร์ทซิตี้ในหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ผลักดันวัน ออริจิ้น เติบโตพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มั่นใจศักยภาพการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและหลากเมกะโปรเจกต์ในแถบ EEC ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนและความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เปิด 5 คอนโดใหม่ในระยอง-ชลบุรี มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท ต่อยอดความสำเร็จ เจาะทั้งตลาดคนทำงาน EEC, ตลาดนักศึกษาแคมปัส และกลุ่มผู้เริ่มต้นลงทุน

นายปิติ จารุกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น อีอีซี จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ในเครือบมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนการพัฒนาโครงการในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญ ในการขับเคลื่อนการสร้างมูลค่าสินทรัพย์ของริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ภายใน 5 ปี (ปี 2565-2569) ให้เพิ่มขึ้น 4 หมื่นล้านบาท และรองรับการเติบโตในอนาคตหลังจากที่บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยคาดว่าบริษัท วัน ออริจิ้น จำกัดจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในไตรมาส 4 ตามแผนที่บริษัทแม่ออริจิ้นได้ประกาศไว้


สำหรับในปี 2565 บริษัทจะยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใน EEC เพื่อตอกย้ำความแข็งแกร่งของบริษัทในฐานะผู้นำที่อยู่อาศัยครบวงจรในภาคตะวันออก อีกทั้งปัจจุบัน โครงการขนาดใหญ่หรือเมกะโปรเจกต์ในพื้นที่ EEC ยังคงมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฟสที่ 2 ของการพัฒนา EEC ระหว่างปี 2565-2569 คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ดEEC) ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 โครงการขนส่งทางราง และคาดการณ์ว่าจะสามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่พื้นที่ได้มากกว่า 2,200 ล้านล้านบาท บริษัทจึงเชื่อมั่นว่า การเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนในธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ จะผลักดันความต้องการที่อยู่อาศัยภายในพื้นที่ให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วย

วางเป้ายอดขายพื้นที่ EEC 4.8 พันล้าน

ทั้งนี้ บริษัทวางเป้ายอดขายโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ EEC ใน 2 จังหวัด ในชลบุรี และระยอง ที่ 4,800 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนยอดขายเกือบ 15% ของเป้าหมายยอดขายรวมของออริจิ้นที่ตั้งไว้ 35,000 หมื่นล้านบาท
โดยในช่วง 2 เดือนทื่ผ่านมา บริษัทมีการเปิดโครงการใหม่ในพื้นที่ EEC ไปแล้ว 1 โครงการ ได้แก่ โครงการ Brixton Campus บางแสน มูลค่า 460 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าและปิดการขายไปแล้ว 100% และเตรียมเปิดขาย Brixton ระยอง มูลค่า 810 ล้านบาท ในวันที่ 2 เม.ย.นี้ พร้อมกับจะมีการเปิดโครงการ KnighsBridge Space ระยอง มูลค่า 1,600 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ด้วยเช่นกัน ส่วนในไตรมาส 3 จะมีการเปิดโครงการ Hampton Executive ศรีราชา มูลค่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับบมจ.ดุสิตธานี (DUSIT) และในไตรมาส 4 จะเปิดโครงการ Brompton ระยอง มูลค่ล 650 ล้านบาท รวมทั้งหมด 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท
สำหรับโครงการที่จะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในด้านยอดโอนที่อยู่ใน EEC ของบริษัทในปีนี้จะอยู่ไนพื้นที่ ORIGIN Smart City ระยอง ซึ่งจะเป็นโครงการ NOTTING HILL ระยอง ที่ปัจจุบันขายไปแล้ว 80% โดยเริ่มทยอยโอนไปแล้วบางส่วน ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเป็นโครงการที่สร้างรายได้ในพื้นที่ EEC ให้กับบริษัทในปีนี้ และยังมีการขายโครงการ KENSINGTON ระยอง ที่เป็นโครงการแรกและพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที โดยปัจจุบันเหลือขาย 30% ราคาขายเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท ที่จะเป็นอีก 1 โครงการในพื้นที่ EEC ที่เข้ามาเสริมรายได้


เล็งขยายจังหวัดใหม่ฉะเชิงทรา


ขณะที่การพัฒนาโครงการในจังหวัดที่อยู่ใน EEC บริษัทยังคงมองหาพื้นที่ในจังหวัดใหม่เพิ่มเติมจากชลบุรี และระยอง ได้แก่ ฉะเชิงทรา ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งทำเลสำคัญในการสร้างโอกาสการพัฒนาที่อยู่อาศัยในพื้นที่ EEC โดยที่แผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 2565 ของบริษัทที่วางไว้ และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาภายใต้บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ได้มีการใช้ที่ดินใน EEC ไปแล้วกว่า 90% ของที่ดินที่บริษัทมีอยู่ ทำให้บริษัทเตรียมมองหาการขยายไปยังจังหวัดใหม่เพิ่มเติม ซึ่งจะต้องเป็นทำเลที่ใกล้แหล่งงาน

About Kansuchaya Suvanakorn

ผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจมาเกือบ 30 ปี

View all posts by Kansuchaya Suvanakorn →

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *