ตลาดต่างจังหวัดหัวเมืองใหญ่ นับเป็นอีกตลาดสำคัญที่ผู้ประกอบบิ๊กเนมเริ่มหันกลับมารุกตลาดมากขึ้น ด้วยแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อค่อยๆ ฟื้นตัวจากลุ่มเรียลดีมานด์ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ทำ ตามทำเลแหล่งงาน สถานศึกษา สนามบิน และศูนย์การค้า ซึ่งมีชีวิตความเป็นอยู่ใกล้เคียงกรุงเทพฯ หลังจากโควิดระบาด เนื่องจากเริ่มมีคนส่วนหนึ่งย้ายไปทำงานและอยู่จังหวัดมากขึ้น ส่งผลให้ดีมานด์และซัพพลายเพิ่มขึ้น
ณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพครบวงจร เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวให้เห็น จากมาตรการเปิดประเทศของภาครัฐ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2565 เช่น โครงการ “คนละครึ่งเฟส 4” โครงการ “ช้อปดีมีคืน 2565” และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 นอกจากนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังได้รับผลดีจากการเปิดให้คนต่างชาติซื้ออสังหาฯ ในไทย และมาตรการสินเชื่อบ้าน LTV (Loan-to-value ratio) ที่ให้คนซื้อบ้านขอสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio) 100% (กู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน) สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
อีกทั้งการลดค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์ จากเดิมร้อยละ 2 และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ จากร้อยละ 1 เหลือเพียงร้อยละ 0.01 สำหรับการซื้อขายบ้านเดี่ยว บ้านแฝด อาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคาร และห้องชุดราคาประเมินไม่เกิน 3 ล้านบาทจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ถือเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับคนที่ต้องการอยากมีบ้านได้ยื่นขอสินเชื่อซื้อบ้านทำได้ง่ายขึ้น รวมถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญๆ ของประเทศ
ขยายต่อยอด 3 ตลาดหลัก
ในส่วนแผนกลยุทธ์ปี 2565 นายณพงศ์ กล่าวว่า หัวใจหลักของแผนดำเนินงานของ โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ ยังคงให้ความสำคัญกับตลาดต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง เป็นการต่อยอดความสำเร็จในแต่ละทำเลเศรษฐกิจสำคัญที่ทางบริษัทฯ ได้เข้าไปพัฒนาโครงการ ได้แก่ ขอนแก่น พัทยา และภูเก็ต ด้วยศักยภาพที่โดดเด่นของทั้ง 3 ทำเล สามารถตอบโจทย์เรียลดีมานด์การซื้อที่อยู่อาศัยได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพื่ออยู่เอง หรือซื้อเพื่อลงทุนสร้างผลตอบแทนในอนาคต จากโครงการทั้งแนวราบและแนวสูงซึ่งขึ้นอยู่กับโอกาสและความต้องการในแต่ละทำเลเป็นหลัก และแม้จะเป็นช่วงเวลาของการระบาดโควิด-19 ก็ตาม ทั้งนี้ นอกจากดีมานด์ของคนในพื้นที่แล้ว โครงการที่ตั้งในจังหวัดท่องเที่ยวก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติเช่นกัน
ตั้งเป้ารายกว่าพันล้าน
โดยภาพรวมปี 2564 บริษัทฯ ยังคงรักษาระดับรายได้อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2563 โดยมาจากรายได้จากอสังหาฯ เพื่อการขาย 400 ล้านบาท และรายได้จากการปล่อยเช่าประมาณ 600 ล้านบาท จาก โอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ท คลับ โรงแรมเมอเวนพิค อัสสรา รีสอร์ท แอนด์ สปา หัวหิน รวมถึงสำนักงานให้เช่า 2 แห่ง ได้แก่ โอเชี่ยน ทาวเวอร์ 1 และโอเชี่ยน ทาวเวอร์ 2
ทั้งนี้ โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ ลงทุนกว่า 200 ล้านบาทในการรีโนเวทโรงแรม โอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ท คลับ ครั้งใหญ่ ให้มีความทันสมัยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อรองรับการเดินทางท่องเที่ยวที่มากันเป็นครอบครัว ตอบสนองความต้องการในช่วงวันหยุดพักผ่อนกับคนทุกเจนเนเรชั่นได้ดียิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะได้อวดโฉมโรงแรมใหม่และเปิดให้บริการกลางปี 2565 นี้
สำหรับตลาดอสังหาฯ จังหวัดขอนแก่น ทางบริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการล่าสุด ““โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้” ลุยต่อเจาะขุมทรัพย์กำลังซื้อต่างจังหวัดมิตรภาพ-ขอนแก่น” คอนโดมิเนียม 8 ชั้น จำนวน 236 ยูนิต อยู่ติดโรงพยาบาลราชพฤกษ์ (ใหม่) เพียง 50 เมตร ซึ่งใกล้กับศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น และสถานศึกษาชั้นนำของขอนแก่น ราคาเริ่มต้นเพียง 1.39 ล้านบาท โดยมียอดขายแล้วกว่า 80% คาดว่าจะสร้างเสร็จและรับรู้รายได้จากการโอนช่วงปลายปี 2565
ทั้งนี้ ข้อมูลจากโครงการ “โอเชี่ยน เรสซิเดนซ์ มิตรภาพ – ขอนแก่น” ซึ่งเป็นโครงการแรกของบริษัทฯในจังหวัดขอนแก่น พบว่าดีมานด์ในตลาดยังเติบโตได้ดีแม้ในสถานการณ์โควิด-19 จากกลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและกลุ่มที่ซื้อเพื่อการลงทุน โดยอัตราผลตอบแทนการลงทุน (Capital Gain) จากการซื้อมาและขายออก