เล่าเรื่อง…ลูกค้าชาวจีน กลับ หรืออยู่ต่อ?

แม้กระแสจะเงียบๆ ไปบ้างแล้ว แต่กลุ่มลูกค้าชาวจีนยังคงเป็นกลุ่มหลักของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในบ้านเรา พี่ดาวเล่าเรื่อง กลับจากสงกรานต์หมาดๆ ขอมาเล่าเรื่องจีนๆ กันอีกสักรอบว่า สรุปแล้ว ลูกค้าชาวจีน จะกลับ หรือไม่กลับ 

โดย…พี่ดาวเล่าเรื่อง

สถานการณ์กลุ่มลูกค้าชาวจีนที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ไทยซึ่งหดตัวไปเมื่อช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน และปัญหาการไม่โอนกรรมสิทธิ์ ทำให้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายราย เดินเซ ๆ กันไปพักใหญ่ ท่ามกลางกระแสความเชี่ยวกรากของมาตรการควบคุมสินเชื่อบ้าน(LTV) ที่ออกมาจากแบงก์ชาติ แต่จากความไม่แน่นอน กลายเป็นความแน่นอน เมื่อ “Capital One” หนึ่งในบริษัทโบรกเกอร์อสังหาริมทรัพย์ของไทย เห็นโอกาสที่ลูกค้าชาวจีนจะกลับเข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทยอีกครั้ง

เรื่องราวจะเป็นอย่างไร “พี่ดาว” จะเล่าให้ฟังค่ะ

บริษัท แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท จำกัด หรือ Capital One คือบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ของไทย และเป็นผู้เชี่ยวชาญในการบริหารตลาดคอนโดมิเนียมในโซนสุขุมวิท ที่มีพอร์ตบริหารการขายกว่า 3 หมื่นล้านบาท

เขามองว่า สาเหตุที่กำลังซื้อของลูกค้าคนจีนต่ออสังหาริมทรัพย์ไทยลดลงไป เนื่องมาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน แต่การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ เหลือวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีก 2 ปี หากไม่สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่หาเสียงไว้ได้(ปัจจุบันยังทำไม่ได้) การเลือกตั้งครั้งหน้าก็อาจเกิดการเปลี่ยนแปลง หากทรัมป์ไม่ได้รับเลือกกลับเข้ามาอีก ก็จะส่งผลต่อนโยบายด้านต่างประเทศของสหรัฐฯ ให้เปลี่ยนแปลงไปได้

ด้านอัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินหยวนปัจจุบันอยู่ที่ 6.7781 หยวนต่อ 1 USD ( ณ วันที่ 18/01/2019) เป็นอัตราที่ใกล้เคียงกับปี 2010 (ปี 2553 อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 6.8268 หยวนต่อ 1 USD ) และก่อนหน้านั้นเป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจจีนอยู่ในยุคทองที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง โดยมีอัตราเปอร์เซ็นต์มากกว่า 2 หลักต่อปี ดังนั้น เศรษฐกิจจีนจึงมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นภายในปีหน้า แต่อาจจะผลกระทบต่อจิตวิทยาของกลุ่มผู้ซื้อในระยะสั้น และอัตราแลกเปลี่ยนหลังจากนี้จะคงอยู่ที่ระดับ 6.8-6.9 หยวนต่อ 1 USD ในอีกระยะเวลานาน หากยังไม่มีข้อตกลงในการยุติสงครามการค้า

อย่างไรก็ดี ชาวจีนมีจำนวนประชากรทั้งประเทศประมาณ 1,300 ล้านคน ซึ่งมีจำนวนมากกว่าประมาณ 4 เท่าของประชากรสหรัฐอเมริกา สัดส่วนของชาวจีนที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศคาดการณ์ว่าไม่เกิน 0.1% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่เงินเก็บค่อนข้างสูงและเป็นเจ้าของธุรกิจ และเงินเก็บบางส่วนจะอยู่ในสกุลเงิน USD โดยลงทุนในต่างประเทศเช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา มีฐานะทางการเงินค่อนข้างมั่นคง จึงหาทางเลือกในการลงทุนในต่างประเทศ

ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในทางเลือกนั้น ซึ่งเป็นบางส่วนของการลงทุนในต่างประเทศของชาวจีน

จากโอกาสที่มองเห็นนั้น ทำให้ “วิทย์ กุลธนวิภาส” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Capital One แนะนำว่า ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย ไม่ควรมองว่าลูกค้าจีนจะเป็นปัญหาไปเสียทั้งหมด เนื่องจากการซื้อและไม่โอนกรรมสิทธิ์เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น และเกิดจากบริษัทนายหน้าเท่านั้น หรืออาจจะป้องกันปัญหาโดยควรจะมีการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการณ์นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เพื่อมีข้อบังคับและระเบียบในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

“ลูกค้าชาวจีนมีพฤติกรรมที่เปิดกว้างในต่างประเทศมากขึ้นในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ภูมิภาคเอเซียรอดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาในขณะที่ยุโรปและสหรัฐยังมีปัญหายังไม่ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และควรให้ความสำคัญต่อการบริการหลังการขายต่อลูกค้าชาวจีนเพื่อชื่อเสียงของประเทศในชาวต่างชาติที่ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย” วิทย์ กล่าวทิ้งท้าย

สรุปสั้นๆ ว่า ลูกค้าชาวจีน จะอยู่หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลฐานตลาดกลุ่มนี้ของผู้ประกอบการ และการสร้างสมดุลที่ดีกับลูกค้ากลุ่มอื่น 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *