ผ่ากลยุทธ์ความสำเร็จ ศุภาลัยลงทุนต่างจังหวัด มองตลาดโตเร็วกว่ากรุงเทพฯ-คู่แข่งน้อย
โดย…กัญสุชญา สุวรรณคร
“ศุภาลัย” นับเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในหัวเมืองต่างจังหวัดมากที่สุด แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะมีการชะลอตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็ยังคงเดินหน้านโยบายขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันเข้าไปพัฒนาโครงการแล้ว 20 จังหวัด โดยในปีที่ผ่านมา ตลาดบ้านแนวราบในต่างจังหวัดของศุภาลัยมียอดขายที่ไม่ห่างจากตลาดบ้านแนวราบในกทม.และปริมณฑลมากนัก โดยมีสัดส่วน 21% จากยอดขายรวม 33,343 ล้านบาท ขณะที่ในกทม.และปริมณฑลมีสัดส่วน 27% และในปี 2562 เป้ายอดขายต่างจังหวัด ถูกขยับเพิ่มเป็น 27% คิดเป็น 9,450 ล้านบาท จากของเป้าการขายรวมของกลุ่มบริษัท 35,000 ล้านบาท
กุญแจแห่งความสำเร็จของศุภาลัย ด้วยการเดินกลยุทธ์การลงทุนพื้นที่ต่างจังหวัด ที่รัดกุม ถูกต้อง และชัดเจน เพราะเป็นตลาดที่มีทั้งโอกาสสำหรับการลงทุนและความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง ทุกจังหวัดที่ศุภาลัยลงทุนเน้นทำสินค้าแนวราบทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ส่วนการลงทุนคอนโดมิเนียมจะเน้นเฉพาะเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต สงขลา เป็นต้น เพื่อให้การลงทุนในต่างจัวหวัดมีความมั่นคงและยั่งยืน
เล็งขยายลงทุนเพิ่มพิษณุโลกอยุธยา
ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บอกว่า กลยุทธ์การลงทุนโครงการในภูมิภาคต่างๆ นั้น บริษัทยังคงมองหาโอกาสขยายการลงทุน เพิ่มเติมไปยังหัวเมืองหลักตามภูมิภาคที่เป็นศูนย์กลางของธุรกิจและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยในปีนี้จะพัฒนาในจังหวัดใหม่ ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก รวมทั้งเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ในจังหวัดที่ได้เข้าไปลงทุนแล้ว ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ อุดรธานี ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง อุบลราชธานี นครราชสีมา สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และนครศรีธรรมราช เนื่องจากมีความมั่นใจว่าจังหวัดดังกล่าว มีพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯเน้นการลงทุนในระยะยาว ส่งผลให้มีสัดส่วนยอดขายในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเป็น 27% ของเป้าการขายรวมของกลุ่มบริษัทฯ
การขยายลงทุนในต่างจังหวัด เป็นการเพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืน และกระจายความเสี่ยงของบริษัท โดยที่ผ่านมาจะเน้นการพัฒนาครอบคลุมทุกภาคของประเทศ ในทุกระดับสินค้า ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์เฮาส์ ปัจจุบันเข้าไปพัฒนาแล้ว 20 จังหวัดๆละไม่ต่ำกว่า 3 โครงการ หากเป็นจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยว จะมีการพัฒนามากกว่า 10 โครงการ
ปี’62 ผุด 15 โครงการในต่างจังหวัด
ในปี 2562 บริษัทฯเตรียมปิดโครงการใหม่ในหัวเมืองต่างจังหวัด 15 โครงการ จากแผนเปิดโครงการใหม่รวม 34 โครงการ มูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 6 โครงการ เป็นบ้านแนวราบ 28 โครงการ ทำให้ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายและรายได้ของบริษัทในต่างจังหวัดล่าสุดคิดเป็น 26-27% ใน 12 จังหวัด และจะส่งผลให้สัดส่วนยอดขายในต่างจังหวัดปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 30% ของเป้าหมายยอดขายของบริษัท 35,000 ล้านบาท
“ที่ผ่านมาศุภาลัยมีการทำโครงการในต่างจังหวัดมานาน และขยายจังหวัดละหลายโครงการ ทำให้คุ้นเคยกับการทำตลาดในต่างจังหวัด โดยที่ผู้ประกอบการจากกรุงเทพฯ ที่กำลังจะขยายการลงทุนเข้าไปทำได้ยากขึ้น”
ลุยเปิด 3 โครงการแนวราบเชียงราย
โดยจังหวัดล่าสุดได้เข้าไปลงทุนคือ จังหวัดชียงราย เนื่องจาก มองว่า ด้วยจุดแข็งที่โดดเด่นของจังหวัดเชียงราย ที่เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจการค้า กับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เมียนมา และ สปป.ลาว อีกทั้งยังมีความพร้อมระบบการคมนาคมขนส่งและโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นธุรกิจที่น่าลงทุนและสามารถเติบโตในทิศทางที่ดี และการแข่งขันยังไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับเชียงใหม่
พัฒนาโครงการแรก คือ โครงการ “ศุภาลัย พาร์ควิลล์ แม่กรณ์-เชียงราย” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 86 ไร่ พัฒนาในรูปแบบบ้านเดี่ยว ขนาด 50-90 ตารางวา ราคา 3.2-8 ล้านบาท และบ้านแฝด ขนาด 36 ตารางวา ราคา 2.89 ล้านบาท รวม 408 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ครบครันภายในโครงการ ทำให้สามารถกวาดยอดขายแล้ว 88 ยูนิต กว่า 400 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการรวม 1,750 ล้านบาท โดยมีจุดขายที่ราคาต่ำกว่าคู่แข่งจากกรุงเทพฯ 25%
อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการในเชียงราย คือ “ศุภาลัย เบลล่า แม่กรณ์-เชียงราย” ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 40 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ขนาดตั้งแต่ 18-60 ตารางวา ราคาขายตั้งแต่ 1.8-4 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 366 ยูนิต มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในเดือนตุลาคมนี้ และโครงการ “ศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ นางแล-เชียงราย” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 67 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว บ้านแฝด รวม 301 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,200 ล้านบาทขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ
ตุนซื้อที่ดินต่างจังหวัดเพิ่ม
นอกจากนี้ บริษัทได้ซื้อที่ดินเตรียมไว้ลงทุนในอนาคตในหลายจังหวัด ที่มีศักยภาพเพื่อรอโอกาสในการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นลำพูน ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี เป็นต้น ทั้งยังสนใจ จังหวัดสกลนคร ด้วย เนื่องจากในฐานะที่เคยเป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีการประชุมทั่วประเทศ ทำให้เห็นข้อมูลการเติบโตของต่างจังหวัดซึ่งเติบโตเร็วกว่ากรุงเทพฯ-ปริมณฑล อีกทั้งราคาที่ดินยังมีราคาถูก การแข่งขันไม่สูง
“การลงทุนในต่างจังหวัด จะเน้นการลงทุนในระยะยาว โดยดูจากขนาดของเมือง รายได้ประชากรควรจะต้องมีรายได้จากหลายทาง เช่น เกษตร ท่องเที่ยว อุตสาหกรรม มีห้างสรรพสินค้า สนามบิน สามารถพัฒนาโครงการได้ 3 โครงการขึ้นไป ซึ่งก็ต้องดูในแง่ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ รายได้ประชากร ของแต่ละจังหวัดประกอบกันไปด้วย จังหวัดไหนที่ยังไม่สามารถพัฒนาได้ 3 โครงการขึ้นไป ก็ยังไม่เข้าไปลงทุน จากเป้าหมาย ตั้งไว้ใน 3ปี 35 %” ประทีปกล่าว
อีกทั้ง บริษัทยังมีความสนใจขยายการลงทุนในโครงการอสังหาฯในประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มเติม หลังจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรในประเทศออสเตรเลียรวมแล้ว 9 โครงการ ใน 4 เมือง มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตของบริษัท และกระจายความเสี่ยง พร้อมกับสร้างโอกาสในการเติบโตในอนาคต จากปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศต่ำกว่า 5% โดยที่การลงทุนในต่างประเทศจะมีการลงทุนในสัดส่วนไม่เกิน 10% ของสินทรัพย์รวมบริษัทจากปัจจุบันอยู่ที่ 5% ของสินทรัพย์รวมทั้งบริษัทราว 50,000 ล้านบาท
#ศุภาลัย #อสังหา62 #อสังหาต่างจังหวัด