เปิดใจเจ้าพ่อตลาดคอนโดฯ ระดับกลาง “ในวันที่ตลาดเปลี่ยน”

โดย…กัญสุชญา สุวรรณคร

“แอล.พี.เอ็น.” เจ้าของแบรนด์คอนโดมิเนียม “ลุมพินี” ที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี วันนี้ต้องยอมรับว่า ถูกสั่นคลอนจากหลายปัจจัยในตลาดอสังหาริมทรัพย์ จากความ Strong ในตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง-ล่าง วันนี้เกมธุรกิจที่เปลี่ยนไป บวกกับการแข่งขันที่ยังดุเดือด “แอล.พี.เอ็น.” คงจะจำกัดตัวตนแค่ตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง-ล่างเพียงอย่างไม่ได้แล้ว…ต้องเป็นทุกอย่าง

“วันนี้ แอล.พี.เอ็น.ฯ คงต้องพลิกบทบาทใหม่ ไม่จำกัดตัวเองทำแค่เซกเมนต์ใดเซกเมนต์หนึ่งแล้ว เราต้องทำทุกเซกเมนต์ พัฒนาโครงการที่หลากหลายขึ้น เพื่อให้มีสินค้าครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย แต่นิยามแบรนด์ ยังคงไม่เปลี่ยน แอล.พี.เอ็น.ฯ เป็นบริษัทคนไทย พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อคนไทย ไม่ได้เน้นเจาะตลาดนักลงทุน เรามีบริหารชุมชนน่าอยู่ที่ยังคงเป็นจุดเด่นของเราเสมอ” โอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าว

ตลาดคอนโดฯอิ่มตัว ปีหน้าคงจะโตไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว

ในมุมมองของเจ้าพ่อคอนโดฯ ตลาดคอนโดมิเนียมเริ่มอิ่มตัว ในทุกเซกเมนต์มีสินค้าเกินความต้องการ เพราะทุกค่ายต้องสร้างเติบโต ทำให้ช่วงที่ผ่านมา มีโครงการเปิดตัวสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ขณะที่สต็อกเดิมมีเหลืออยู่ในมืออีกมาก “” ต้องปรับตัวอีกครั้ง โดยในปีหน้าที่มองว่า ตลาดคอนโดฯ จะโตไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะถูกจำกัดด้วยเงื่อนไข ด้วยราคาคอนโดฯ ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กำลังซื้อเอื้อมไม่ถึง

อีกทั้งสถาบันการเงินเข้มงวดเรื่องการปล่อยสินเชื่อมากเป็นพิเศษ เพราะได้รับคำเตือนจากธนาคารแห่งประเทศไทย ในการพิจารณาปล่อยกู้ นอกจากดูในเรื่องของรายได้กับภาระหนี้สินแล้ว การอนุมัติวงเงินสินเชื่อที่เข้มขึ้น อาจจะไม่ได้ให้เต็มวงเงินของราคาที่อยู่อาศัย แต่คนซื้อที่ไม่ได้มีเงินเก็บ ก็เท่ากับเงินไม่ได้ครอบคลุมกับที่ต้องโอนกรรมสิทธิ์ ทำให้ติดปัญหาโอนไม่ได้ แม้ว่าในตลาดจะยังมีเรียลดีมานด์ แต่โอนไม่ได้ ก็ยาก

ในมุมของบริษัทฯ ที่ยังคงต้องเติบโต และไม่สามารถแก้ปัญหาในเงื่อนไขที่บริษัทฯ ควบคุมไม่ได้ ก็ต้องหาแนวทางปรับตัว โดยการปรับตัวของแอล.พี.เอ็น.ฯ จะขยายไปในตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีการเติบโตที่ดี รวมถึงขยายตลาดที่อยู่อาศัยลักชัวรีเพิ่มมากขึ้น โดยในปีหน้าแอล.พี.เอ็น.ฯ จะขยายการลงทุนในกลุ่มบ้านแนวราบเพิ่มขึ้นกว่าปีนี้เท่าตัว พร้อมตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัวจาก 2,000 ล้านบาทในปีนี้ เป็น 4,000 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนที่อยู่อาศัยแนวราบเพิ่มจาก 20% เป็น 30-40% ในปีหน้า ตลอดจนทำสินค้าใหม่ๆ เพื่อสร้างฐานรายได้ใหม่ๆ เช่น อาคารสำนักงาน หรือโฮมออฟฟิศ ซึ่งบริษัทฯ ก็ให้ความสนใจ

ดึงดีไซน์สร้างคาแรกเตอร์โครงการ

ไม่เพียงโปรดักส์หลากหลายเท่านั้น แอล.พี.เอ็น.ฯ เปลี่ยนแนวคิด การดีไซน์ต่างไปจากเดิม ที่ผ่านมาคนมองดีไซน์แอล.พี.เอ็น ว่าเชยๆ ดูแก่ๆ ซึ่งนับจากนี้เราก็จะมองดีไซน์ไปตามเทรนด์ ตามแต่ละโลเคชั่น โดยดีไซน์แต่ละโครงการจะเปลี่ยนไปตามลักษณะโลเคชั่น และกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แต่ละโครงการทำให้เกิดคาแรกเตอร์ที่ต่างกันออกไป เช่น โครงการ ลุมพินีวิลล์ นราธิวาส-รัชดา ย่านนั้นจะเป็นลูกค้าคนจีน สีของอาคารจะใช้โทนสีแดง

พื้นที่ส่วนกลางเพื่ออยู่อาศัยจริง ไม่ใช้เพื่อการตลาด พื้นที่ส่วนกลางคนทุกเพศวัยต้องใช้ได้ พื้นที่ฟังก์ชั่นตอบโจทย์ แชร์ลิฟวิ่งรูม เก้าอี้ปรับความสูง สุขภัณฑ์สำหรับผู้สูงวัย สระว่ายน้ำผู้สูงวัยลึก 90 ซม. บริหารออกกำลังกาย ซึ่งปีหน้าจะเห็นความแตกต่างแต่ละโครงการชัดเจน

คงต้องจับตาก้าวใหม่ของ “แอล.พี.เอ็น.” ในยุคอสังหาฯ ที่การแข่งขันดุเดือด และมีหลายปัจจัยที่ท้าทายกำลังซื้อของผู้บริโภค

#แอลพีเอ็น #ลุมพินี #คอนโด #LPN #คอนโดลุมพินี

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *